เทคโนโลยีขับรถแบบไร้คนขับ กำลังเข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ความแพร่หลายของระบบ Autopilot ของ Tesla ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายต่างตื่นตัวมากขึ้นกับระบบไร้คนขับ และให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบนี้มากขึ้น ทว่านี่ก็เป็นดาบ 2 คม ด้านหนึ่งก็ทำให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่นั่นก็จะทำให้บางอาชีพนั่นอาจหายไป

อาชีพที่จะหายไป ในยุคไร้คนขับ

มนุษย์ล้วนแล้วต้องการแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่อำนวยความสะดวกที่สุด และสิ่งที่ทำให้ตนนั้นมีความสุขที่สุดเป็นธรรมชาติ ในโลกแห่งธุรกิจก็เช่นกัน หากมีสิ่งใดที่ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินกิจการได้นั้นย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้เจ้าของกิจการเลือกใช้สิ่งนั้นๆ ในการดำเนินธุรกิจของตนให้เกิดกำไรสูงสุด และมีต้นทุนการดำเนินงานต่ำที่สุด

ในโลกแห่งธุรกิจขนส่ง นอกจากยานพาหนะแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือ “คนขับ” เพราะในปัจจุบันเทคโลยีการขับขี่โดยไม่ใช้คนขับนั้นยังไม่ได้แพร่หลายไปในทุกวงการมากนัก อาชีพ “คนขับรถ” จึงยังมีความจำเป็นอยู่ในทุกระบบขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นขนส่งมวลชน, ขนส่งสินค้า กระทั่งรถแท็กซี่ก็ตาม

ทว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ เทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติย่อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนเราทุกคนอีกไม่นานนี้อย่างแน่นอน และการขับรถด้วยมนุษย์เองอาจถูกจำกัดพื้นที่ใช้งานก็เป็นได้ เรามาคิดภาพตามกันว่าหากระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติถูกใช้งานจริง จะมีใครบ้างที่ได้รับผลกระทบ

คนขับแท็กซี่ โดน AI แย่งงาน

ใกล้ตัวชีวิตเรามากที่สุดกับคนขับรถแท็กซี่ โดยในต่างประเทศเริ่มมีการทดสอบระบบรถแท็กซี่ไร้คนขับกันแล้ว ซึ่งผู้ใช้งานสามารถกดเรียกแท็กซี่ด้วยแอพลิเคชั่น ตัวรถก็จะวิ่งมาหาผู้ใช้งานได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งคนขับ และผู้ใช้ก็ทำหน้าที่กำหนดจุดหมายปลายทางที่ต้องการเดินทางไป และนั่งสบายๆ ปล่อยให้ระบบ AI พาเราไปยังจุดหมายปลายทาง หมดปัญหาเรื่องโดนพาวน, หลงทาง หรือแก๊สหมดไปได้เลย เพราะในอนาคตยังไงรถยนต์ต้องไปใช้ระบบไฟฟ้ากันหมดอยู่แล้ว ตามนโยบายต่างๆ ของผู้ผลิตรถยนต์เกือบครึ่งนึงของโลกที่พร้อมใจกันเลิกพัฒนารถยนต์เครื่องสันดาปล้วนกันแล้ว

พนักงานขับรถ รถบรรทุก รถเมล์ รถส่วนตัว

ตามมาติดๆ กับอาชีพพนักงานขับรถ ไม่ว่าจะเป็นรถอะไรก็แล้วแต่ล้วนโดนหางเลขจากระบบไร้คนขับทั้งสิ้น แต่ในงานบางประเภทอาจจะยังต้องการคนขับรถจริงๆ อยู่ อาทิเช่น คนขับรถให้กับบุคคลสำคัญ, คนขับรถทดสอบ เป็นต้น ส่วนคนขับรถประเภทอื่นๆ ล้วนแล้วถูกเจ้า AI ทำงานแทนจนหมดสิ้น

ไฮไลท์สำคัญเห็นจะเป็นรถบรรทุก และรถโดยสารระหว่างจังหวัดที่เป็นระบบไร้คนขับ แต่เดิมการใช้งานรถประเภทนี้โดยใช้คนขับ ล้วนแล้วแต่มีปัจจัยรบกวนหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพคนขับรถเอง ที่ใช้มนุษย์ขับ แน่นอนว่าแรงของมนุษย์นั้นมีจำกัด ไม่สามารถขับรถแบบทั้งวันทั้งคืนได้ 100% อย่างแน่นอน

แตกต่างจาก AI ที่เป็นระบบคอมพิวเตอร์ มันไม่รู้จักคำว่าเหนื่อยแต่อย่างใด ซึ่งหากระบบนี้ถูกพัฒนาจนสำเร็จและเริ่มใช้งานได้จริง เรียกได้ว่าเป็นการปฎิวัติวงการขนส่งไปอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว เพราะมันจะช่วยให้ผู้ประกอบการควบคุมต้นทุนได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ขนส่งสินค้าได้รวดเร็วกว่าเดิม และปลอดภัยมากขึ้น

ใช่ว่าคนขับรถจะตกงานซะทีเดียว

ทว่า ขีดจำกัดของระบบไร้คนขับก็มีอยู่ นั่นคือในกรณีที่ตัวรถมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยางแตก, ระบบเบรกมีปัญหา, ระบบปรับอากาศมีปัญหาในรถโดยสาร หรือเกิดภัยธรรมชาติ เป็นต้น โดยส่วนตัวผู้เขียนมองว่าคนขับรถยังมีความจำเป็นอยู่ แต่อาจจะไม่จำเป็นต้องขับเองตลอดเวลา โดยจะทำหน้าที่คล้ายกับนักบิน ที่จะควบคุมเครื่องบินเองเฉพาะตอนเทคออฟและแลนดิ้ง ส่วนเวลาบินยาวๆ บนอากาศนั้นจะใช้ระบบออโต้ไพลอท ทำให้เชื่อได้ว่าในอนาคตระบบรถบรรทุกและรถโดยสารไร้คนขับ คงใช้หลักการเดียวกันนี้เช่นเดียวกัน

บุรุษไปรษณีย์ และพนักงานส่งของ

อีกหนึ่งอาชีพที่อาจหายไปตลอดกาลกับบุรุษย์ไปรษณีย์ และพนักงานส่งของ โดยแต่เดิมแล้วระบบการกระจายสินค้าตามบ้านนั้นจะมีศูนย์กระจายสินค้าประจำเขตนั้นๆ ตั้งอยู่ และจำแนกสิ่งของออกไปตามโซน และส่งต่อให้พนักงานขนส่งขับรถไปส่งตามบ้าน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ก็ตาม ทว่าในขณะนี้มีหลายบริษัทขนส่งในต่างประเทศ ต่างกำลังพัฒนาระบบขนส่งแบบนี้โดยไม่จำเป็นต้องใช้คนขับรถแต่อย่างใด โดยจะใช้ระบบไร้คนขับในการส่งของถึงประตูบ้านกันเลยทีเดียว

โดยในลักษณะนี้ การควบคุมระบบขนส่งจะทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะถูกควบคุมมาเรียบร้อยแล้วจากส่วนกลาง ทำให้ง่ายต่อการติดตามมากกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยลดแรงงานคนในการทำงานด้วย ทว่ามันก็ส่งผลให้คนที่ทำอาชีพนี้อาจต้องหันไปหางานใหม่ด้วยเช่นกัน

โดยปัจจุบันในหลายๆ องค์กรได้เริ่มมีการทดลองนำเอาโดรน อากาศยานบังคับแบบไร้คนขับ มาทดลองส่งสินค้าขนาดเล็กกันแล้ว เพราะโดรนนั้นบินอยู่บนฟ้า ไม่มีข้อจำกัดเรื่องการจราจรบนท้องถนน ทำให้ขนส่งสินค้าได้รวดเร็วกว่า แต่ด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยีปัจจุบัน ทำให้การขนส่งประเภทนี้ยังมีข้อจำกัดเรื่องปริมาณการขนส่ง และระยะทางที่สามารถเดินทางได้

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับอนาคตของระบบขนส่งที่ AI จะเข้ามาแทนที่ เรียกได้ว่าเป็นดาบ 2 คมที่มีทั้งด้านดี และด้านลบ ทุกท่านคิดว่าจะมีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับระบบขนส่งใดอีก ที่จะโดน AI ทำแทน มาแสดงความคิดเห็นกันได้ครับ

 

 

เครดิต www.autospinn.com