กระจกหน้ารถ ถือเป็นด่านหน้าที่ช่วยป้องกันอันตรายมายังผู้ขับและผู้โดยสารภายในรถ ปกติกระจกหน้ารถมีความแข็งแรง แต่ก็มีโอกาสแตก กระจกหน้ารถมีกี่ชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะการแตกยังไง

กระจกหน้ารถมีกี่ชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะการแตกยังไง

เราสามารถแบ่งประเภทกระจกหน้ารถออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

  • กระจกเทมเปอร์

มีความหนาประมาณ 5 มิลลิเมตร กระจกชนิดนี้จะได้รับความร้อนที่ 650-700 องศาเซลเซียส และจะถูกทำให้ผิวหน้าเย็นตัวลงอย่างรวดเร็วเพื่อให้เกิดแรงอัด อุณหภูมิที่แตกต่างกันจะทำให้เกิดแรงอัดซึ่งช่วยต้านแรงจากภายนอก เวลาแตกจะกลายเป็นเม็ดเล็กๆ เกาะกันอยู่ หากแตกออกมาก็จะมีความแหลมคมน้อยเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อคนที่อยู่ในรถ กระจกชนิดนี้ยังสามารถแยกย่อยเป็นอีก 2 ชนิด คือ

  1. เทมเปอร์ กระจกเทมเปอร์ธรรมดาเวลาแตกจะเป็นเม็ดเล็กๆ ลามไปทั้งบาน
  2. โซนเทมเปอร์ เวลาแตกก็ลามไปทั้งบานเช่นกัน แต่ความละเอียดจะแตกต่างกันในแต่ละส่วนของกระจก บริเวณโซนกลางและล่าง กระจกจะแตกเป็นเม็ดโตหน่อย เพื่อให้ยังสามารถมองเห็นเส้นทางได้บ้าง

ส่วนบริเวณขอบก็จะแตกเป็นเม็ดเล็กๆ อย่างไรก็ตามกระจกประเภทนี้อาจเสี่ยงต่อการแตกจากแรงเค้น หรือ Stress crack ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกะทันหัน แรงดัน เช่นแรงดันจากระเบิด หรือสนามซ้อมเครื่องบินขับไล่ หรือโครงสร้างที่ไม่แข็งแรงจากการประกอบ

  • กระจกลามิเนต

มีความหนา 6 มิลลิเมตร มีกระบวนการผลิตที่ต่างออกไป กระจกลามิเนตทำจากกระจกที่ถูกรีดเป็นแผ่นบางๆ แล้วเอามาประกอบกันโดยแต่ละชั้นเชื่อมด้วยฟิล์ม PVB หรือ EVA แล้วนำมารีดเพื่อให้ฟิล์มยึดติดกับกระจก แล้วนำมาอบในเตาเพื่อไล่อากาศออก ด้วยการผลิตแบบนี้ทำให้เวลากระจกแตก จะไม่มีเศษกระจกร่วงออกมาเพราะฟิล์มในแต่ละชั้นจะช่วยยึดเศษกระจกเอาไว้ ฟิล์มนี้ยังช่วยกันไม่ให้น้ำหรือลมซึมเข้ามาได้ด้วย
นอกจากนี้ ลักษณะการแตกยังเป็นแบบร้าวเป็นเส้นเฉพาะบริเวณที่แตกเท่านั้น ไม่ลามไปทั้งบานเหมือนกระจกเทมเปอร์ แต่อย่างไรก็ตามกระจกนี้ก็มีวันหมดอายุ โดยสามารถสังเกตได้จากรอยฝ้าตามขอบ หรือมุมกระจก

หากเราต้องการเช็คว่า กระจกหน้ารถเป็นชนิดไหน ให้ลองดูที่มุมกระจกจะมีบอกว่าเป็นกระจกประเภทไหน

 

 

เครดิต www.autospinn.com