ทิศทางตลาดยานยนต์โลกกำลังเดินทางเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน จากรถยนต์ที่ใช้เครื่องน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าสู่รถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (EV) ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในศิลปะในการขับรถผ่านระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดาจากยุคเริ่มต้น กำลังจะสูญพันธุ์ตามไปด้วย

     ในทางเทคนิคแล้ว รถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ จะมีระบบการขับเคลื่อนที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง จากกำลังเครื่องยนต์ผ่านระบบส่งกำลัง (เกียร์) เพื่อขับเคลื่อนเพลาขับส่งต่อไปที่ล้อ จะเปลี่ยนเป็นกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ส่งต่อไปยังล้อทั้ง 4 โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านเกียร์

     คำถามคือแล้วฟิลลิ่งในการขับขี่รถเกียร์ธรรมดาของคนใช้รถในยุคนี้ รวมถึงศิลปะในการควบคุมคลัตช์ในจังหวะออกตัว หรือในทางลาดชันจะยังพอมีโอกาสที่จะถูกพัฒนาให้เข้ากับรถพลังงานไฟฟ้าในอนาคตหรือไม่ หรือหากไม่เป็นเช่นนั้น รถไฟฟ้าสามารถพัฒนาให้เป็นระบบกึ่งอัตโนมัติ สามารถสับเกียร์ + และ – ได้เหมือนรถยุคนี้หรือไม่

     หนึ่งในธุรกิจที่เกิดขึ้นแล้วในยุคปัจจุบัน ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคของรถ EV คือการนำคลาสสิกจากยุคอดีต มาโมดิฟายเป็นรถที่ขับเคลื่อนไฟฟ้า โดยมีงบประมาณเฉลี่ยอยู่ที่คันละ 2-5 แสนบาท อย่างไรก็ดี ระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา เป็นหนึ่งจุดที่ไม่ได้ติดสอยห้อยตามมาด้วย

     ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เคยมีกระแสข่าวว่า โตโยต้า ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น มีแผนที่จะพัฒนารถพลังงานไฟฟ้าของตัวเอง ให้มีระบบเกียร์ธรรมดาเพิ่มเติมขึ้นมาด้วย โดยจะติดตั้งระบบส่งกำลังแบบ manual ให้สามารถทำงานควบคู่ไปกับมอเตอร์ไฟฟ้า ในรถสปอร์ต EV ของพวกเขา ทว่าปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ออกมา

     ในปี 2021 ที่ผ่านมามีรายงาน จาก Car News China ว่า BYD ยี่ห้อรถไฟฟ้าจากประเทศจีน มีการเปิดตัวรถ EV ที่มาพร้อมระบบเกียร์ธรรมดาแบบ H-pattern พร้อมแป้นสำหรับเหยียบคลัตช์เหมือนกับรถเครื่องยนต์สันดาป ภายใต้ชื่อรุ่น e3 Electric Sedan

     อย่างไรก็ดีทาง BYD ไม่ได้มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดว่ามีการเชื่อมพลังงานไฟฟ้าส่งต่อไปยังเกียร์ธรรมดาได้อย่างไร รวมถึงยังไม่มีแผนนำออกมาขายในท้องตลาด แต่เป็นรถที่พัฒนาขึ้นเพื่อมาใช้สำหรับสอนในโรงเรียนสอนขับรถ รวมถึงฝึกการขับขี่ในสถานการณ์ต่าง ๆ เท่านั้น

     จริงอยู่แม้การนำเอา “เกียร์ธรรมดา” มาใส่ในรถพลังไฟฟ้า อาจดูขัดกับแนวคิดรถ EV ที่ต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมและลดชิ้นส่วนอะไหล่ให้ได้มากที่สุด แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเหยียบคลัตช์ สับเกียร์ธรรมดา มันคือศิลปะและเสน่ห์ของการขับรถ ซึ่งบางทีอาจกลายเป็นออปชันที่หลายคนต้องการ ในรถ EV ยุคอนาคตก็เป็นได้

 

 

เครดิต www.sanook.com