หลายคนคงเคยสังเกตเห็นว่าบริเวณสายเข็มขัดนิรภัย จะมีตุ่มเล็กๆ ติดตั้งเอาไว้บนสายเข็มขัดของรถแทบทุกคัน แล้วทราบหรือไม่ว่าตุ่มดังกล่าวมีไว้ทำอะไร?

      อันที่จริงแล้วตุ่มดังกล่าวมีไว้เพื่อให้หัวเข็มขัดนิรภัยอยู่ที่ปลายสายเสมอทุกครั้งที่หยิบมาคาด เพราะถ้าหากไม่มีตุ่มที่ว่านี้ หัวเข็มขัดก็จะลงไปกองอยู่กับพื้นอย่างแน่นอน ทำให้ไม่สะดวกต่อการหยิบมาใช้นั่นเอง

      นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์ภายในรถอีกหลายอย่างที่คุณเองก็อาจไม่ทราบถึงประโยชน์ในการใช้งาน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

      1. ปุ่มปรับกระจกตัดแสง – รถยนต์แทบทุกคันจะมีกระจกมองหลังแบบตัดแสงมาให้ เหมาะสำหรับใช้ในกรณีที่รถคันหลังเผลอเปิดไฟสูงค้างไว้ วิธีใช้ก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่ดึงปุ่มบริเวณขอบล่างของกระจกเข้าหาตัว องศาของกระจกมองหลังก็จะถูกปรับองศาเพื่อตัดแสงจากรถคันหลัง ช่วยลดแสงจ้าลงได้อย่างเห็นผล

      2. ลูกศรบนเกจ์น้ำมัน – ลูกศรที่อยู่บริเวณด้านข้างของสัญลักษณ์รูปหัวจ่าย มีไว้เพื่อบอกตำแหน่งของฝาถังน้ำมันว่าอยู่ทางซ้ายหรือทางขวาของตัวรถ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกฝั่งที่จะเติมน้ำมันได้อย่างถูกต้องนั่นเอง

      3. ตะแกรงเล็กๆ บนแผงคอนโซล – หลายคนอาจเคยสงสัยว่าช่องตะแกรงเล็กๆ บนแผงคอนโซลหน้ามีไว้ทำอะไร จะเป่าลมออกมาก็ไม่ใช่ จะมีไว้ดูดอากาศก็ไม่เชิง ซึ่งอันที่จริงแล้วช่องดังกล่าวเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร เพื่อให้ระบบปรับอากาศสามารถทำความเย็นได้อย่างเหมาะสมกับอุณหภูมิจริงในขณะนั้น

      4. ปุ่มปรับระดับไฟหน้า – รถบางรุ่นสามารถปรับระดับความสูงของไฟหน้าตามน้ำหนักบรรทุกได้ เพราะหากมีผู้โดยสารเต็มคัน หรือบรรทุกสัมภาระที่มีน้ำหนักมาก หน้ารถก็จะเชิดขึ้น ส่งผลให้ไฟหน้าพุ่งแยงสายตาผู้ขับขี่คนอื่นๆ ได้ โดยที่ตำแหน่ง 0 คือตำแหน่งปกติ ไฟหน้าจะพุ่งไปได้ไกลที่สุด เหมาะสำหรับกรณีที่ไม่มีน้ำหนักบรรทุก ส่วนตำแหน่ง 1, 2 และ 3 ก็จะเป็นการกดองศาไฟหน้าให้ต่ำลงลดหลั่นกันไปตามลำดับ ยิ่งตัวเลขมากขึ้นเท่าไหร่ ไฟหน้ายิ่งต่ำลงเท่านั้น

      5. ปุ่มรูปหิมะ – รถบางรุ่นอาจมีปุ่มรูปหิมะติดตั้งมาให้ใกล้กับคันเกียร์ ซึ่งมีหน้าที่ช่วยให้รถออกตัวอย่างนุ่มนวลบนทางที่เต็มไปด้วยหิมะ หากเป็นรถที่ใช้เกียร์แบบทอร์กคอนเวอร์เตอร์ มักจะเป็นการออกตัวด้วยเกียร์ 2 เพื่อป้องกันไม่ให้ล้อได้รับแรงบิดจากเครื่องยนต์มากจนเกินไป จนอาจเกิดเป็นอาการล้อหมุนฟรีบนพื้นผิวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนั่นเอง

      เมื่อรู้จักอุปกรณ์เหล่านี้แล้วก็อย่าลืมใช้ให้เกิดประโยชน์กันด้วยนะครับ

 

 

เครดิต www.sanook.com

 

ก้านสูบ 4JJ1 / 4JK1 D-max มีกี่แบบ?