RAM 1500 Revolution BEV รถกระบะไฟฟ้าดีไซน์สุดล้ำ ได้เผยโฉมในงาน Consumer Electronics Show (CES) ที่ สหรัฐอเมริก มาพร้อมการดีไซน์ที่ล้ำสมัย และจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีครบครัน

RAM 1500 Revolution BEV ใช้แพลตฟอร์ม STLA ที่ออกแบบมาสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ ช่วงล่างเป็นแบบถุงลมสามารถปรับสูงต่ำได้ และล้อยังสามารถเลี้ยวได้ทั้ง 4 ล้อ โดยล้อคู่หลังจะหักเลี้ยวได้สูงสุด 15 องศา เพื่อช่วยเพิ่มวงเลี้ยวให้คล่องตัวในที่แคบ

ด้านหน้าโดดเด่นด้วยการใช้โลโก้ชื่อ RAM ที่ล้อมรอบด้วยแสงไฟ รับเข้ากับชุดไฟหน้า ที่เป็น LED ดีไซน์แบบ Tuning fork และเหลี่ยมสันบนฝากระโปรงหน้าที่ดูบึกบึน

ด้านข้างโดดเด่นด้วยลายเส้นที่ชัดเจน ซุ้มล้อมีขนาดใหญ่ ซึ่งมากพอสำหรับการใส่ล้อขนาดใหญ่ 24 นิ้ว พร้อมฝาปิดดุมล้อแบบอยู่กับที่ และอักษร RAM ตรงกลาง

การออกแบบหลังคาให้มีความโค้งต่อเนื่องจากกระจกบังลมหน้า มือเปิดประตูกลมกลืนเรียบไปกับพื้นผิว และออกแบบตัวถังที่ไร้เสา B ประตูเปิดได้กว้าง และบันไดข้างสำหรับการก้าวขึ้นรถ

กระจกมองข้างมีขนาดเล็กกว่ารถกระบะทั่วไป แต่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมุมมอง 360 องศา

กระบะท้ายเปิดแบบตู้กับข้าว พร้อมไฟท้ายแบบ LED นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับลูกเล่นสุดล้ำ ผนังกั้นห้องโดยสารสามารถเปิดได้ และพื้นกระบะสามารถเลื่อนสไลด์ยืดยาวออกมานอกตัวรถเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุก พร้อมแผ่นกั้นสัมภาระด้านท้ายกันของตก

ภายในสุดหรู ตกแต่งด้วยลายเส้นแสงไฟที่สวยงามทั่วทั้งรถ ลามไปถึงแสงไฟที่สวยหรูบนหลังคา พวงมาลัยดีไซน์สุดล้ำ จอ Head Up Display แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจก หน้าจอเครื่องเล่นตรงกลางขนาดใหญ่ 14.2 นิ้ว และยังมีจอที่สองที่สามารถนำมาต่อรวมกันได้ ทำให้มีขนาดใหญ่ถึง 28 นิ้ว และสามารถถอดออกเพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้

ที่วางแขนตรงกลาง มีลูกเล่นที่สามารถปรับให้เป็นโต๊ะทำงานภายในรถ

ด้วยความที่เป็นรถไฟฟ้า จึงไม่ต้องใช้เครื่องยนต์ให้เปลืองเนื้อที่เหมือนในรุ่นเครื่องสันดาป ทำให้ทีมออกแบบสามารถจัดสรรพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้ยาวขึ้น 4 นิ้ว และติดตั้งเบาะแถวที่ 3 แบบพับได้ ส่งผลให้เจ้าคันนี้มีเบาะถึง 3 แถว 6 ที่นั่ง และผนังกั้นห้องสามารถเปิดโล่งเพื่อเชื่อมต่อกับกระบะด้านท้ายได้ สามารถใส่สัมภาระที่เป็นทรงยาวได้ถึง 18 ฟุต

หากพื้นที่เก็บของยังเยอะไม่พอ ก็สามารถเปิดข้างกระบะทั้งฝั่งซ้าย และขวา เพื่อใส่ของได้ รวมถึงฝากระโปรงหน้า ก็สามารถใส่ของได้อีกเยอะเช่นกัน

RAM 1500 Revolution BEV ยังมาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่ใช้ระบบ AI รับคำสั่งจากผู้ขับขี่และผู้โดยสาร สามารถรองรับคำสั่งเสียงได้อย่างหลากหลาย เช่น ปิดกระจก เปิดเพลง ถ่ายรูป และ “ตามฉันมา” ด้วย Shadow Mode โดยโหมดนี้ รถจะขับจะเคลื่อนที่ตามหลังแบบช้า ๆ โดยที่ผู้ออกคำสั่งยืนอยู่นอกรถ คุณสมบัติการสั่งงานด้วยเสียงนี้มีประโยชน์ในสถานการณ์ที่คนขับจำเป็นต้องเคลื่อนที่เป็นระยะทางสั้น ๆ และไม่ต้องการกลับเข้าไปในรถ เช่น เมื่อหยิบเครื่องมือหรืออุปกรณ์จากไซต์งาน รถจะติดตามคนขับในระยะที่ปลอดภัย โดยใช้เซ็นเซอร์และเทคโนโลยีกล้องเพื่อนำทางไปยังสิ่งกีดขวาง นวัตกรรมนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้งานง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

สำหรับข้อมูลของสมรรถนะ ยังไม่มีการเปิดเผยอะไรออกมามากนัก ทราบเพียงแค่มีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยการชาร์จไฟกระแสตรง (DC) 800 โวลต์ รองรับสูงสุด 350 กิโลวัตต์ เพียงแค่ 10 นาที จะได้ระยะทางวิ่งประมาณ 100 ไมล์ หรือประมาณ 160.9 กิโลเมตร

 

เครดิต www.autospinn.com

เทอร์โบ NP300 มีกี่แบบ? ไปชมกัน