เหตุผลที่ทำไมเบี้ยประกันภัยของรถยนต์ไฟฟ้าถึงมากกว่ารถยนต์เครื่องสันดาป หรือ ICE วันนี้เลดี้มีคำตอบให้ทุกคน รวมถึงปัจจัยและที่มาของความเสี่ยงต่างๆ ที่ทางบริษัทประกันภัยนำมาคำนวณ

ทำไมประกันภัยรถไฟฟ้าถึงแพงกว่ารถน้ำมัน?

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็อยากช่วยลดมลภาวะให้กับโลก และนอกจากจะช่วยโลกแล้วยังช่วยตัวเองประหยัดค่าใช้จ่ายของการเดินทางในชีวิตประจำวันอีกด้วย เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าคือทางออกที่ดีที่สุดหากเป็นไปได้ แต่ว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็จะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นก็คือประกันภัย ซึ่งแน่นอนว่าประกันภัยของรถยนต์ไฟฟ้านั้นสูงมากเลยทีเดียว แต่ทำไมล่ะ? ทำไมถึงมีราคาที่สูงกว่าทั้งๆ ที่มันก็เป็นรถลักษณะเดียวกับรถน้ำมันเลย

คำตอบก็คือ เนื่องจากว่าบริษัทประกันภัยต้องคำนึงถึงกลุ่มของตัวแปรต่างๆ เมื่อมีการกำหนดราคาเบี้ยประกันรถยนต์ของคุณ ตัวแปรนี้ก็คือ ยานพาหนะ รุ่น ยี่ห้อ, อายุของเจ้าของหรือผู้เอาประกัน, สถานที่ที่เจ้าของอาศัยอยู่หรือต้องเดินทางไป และค่าใช้จ่ายทั่วไปของชิ้นส่วนและการซ่อมแซมยานพาหนะของคุณ ซึ่งด้วยเหตุที่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าในขณะนี้ยังไม่ได้รับความนิยมจากค่าเฉลี่ยของผู้ใช้งานทั่วโลก ดังนั้น ค่าอะไหล่ต่างๆ จึงค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าจะลดลงอย่างแน่นอน จากปัจจัยที่ว่าหากบริษัทที่รับประกันสามารถรวบรวมข้อมูลและสถิติของผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใดรุ่นหนึ่ง ซึ่งมีแนวโน้มเกิดอุบัติเหตุน้อยลงหรือลดลงเนื่องจากคุณลักษณะด้านความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น หรือผู้ขับขี่มีความระมัดระวังในการขับขี่มากขึ้น รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ปัจจัยสำคัญในการคำนวณเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า

หลักของการคำนวณเบี้ยประกันภัย จะสืบค้นข้อมูลเบื้องต้นหรือปัจจัยทางชีวประวัติของผู้เอาประกัน อาทิ สถานที่ที่คุณอาศัยอยู่ อายุ ประสบการณ์การขับขี่ของคุณ และคะแนนเครดิตของคุณ (การทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยานพาหนะ) รวมถึงประเภทของรถที่คุณใช้งานอยู่ด้วย ตัวอย่างเช่น หากรถของคุณเป็นรถสปอร์ตที่ให้กำลังและมีสมรรถนะสูง หรือเป็นเพียงรถเก๋งธรรมดา ข้อมูลเหล่านี้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำมาพิจารณาด้วยเช่นกัน เพราะสามารถบ่งบอกพฤติกรรมของเจ้าของรถยนต์เหล่านี้ได้ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด ยิ่งรถสมรรถนะสูงก็ยิ่งขับไว มีค่าอะไหล่ที่แพงขึ้น ค่าซ่อมบำรุงที่มากขึ้น รวมถึงมีความเสี่ยงในการถูกขโมยมากยิ่งขึ้นเป็นต้น หลังจากนั้นบริษัทที่รับประกันจะประเมินความเสี่ยงของแต่ละเคสและคำนวณออกมาเป็นเบี้ยรายบุคคล

ปัจจัยของรถยนต์ไฟฟ้าก็เช่นเดียวกัน แต่นอกเหนือจากที่กล่าวมานั้น รถยนต์ไฟฟ้ายังมีความไม่ลงตัวของกรอบการทำงานไม่ว่าจะเป็นระบบมอเตอร์หรือแบตเตอรี่ต่างๆ เมื่อเทียบเท่ากับรถยนต์สันดาปหรือ ICE โดยทั่วไป รวมถึงบริษัทประกันภัยยังไม่มีข้อมูลมาเทียบเคียงหรือประเมินความเสี่ยงของรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนกับรถยนต์เครื่องสันดาปอื่นๆ ดังนั้นเบี้ยประกันภัยจึงยังไม่มีความแน่นอน จึงต้องตั้งเบี้ยประกันให้สูงไว้ก่อน เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุนของบริษัท

นอกจากนี้ยังต้องเอาปัจจัยในเรื่องของชิ้นส่วนหรืออะไหล่รถยนต์มาประเมิน ซึ่งในบางรุ่นอาจจะมีค่าบำรุงรักษาถูกกว่าอีกรุ่นที่มีราคารถเท่ากัน และอย่างที่กล่าวไปข้างต้น เรื่องแนวโน้มของเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องลดลงอย่างแน่นอนด้วยปัจจัยต่างๆ รวมถึงความเข้มงวดของรัฐบาลในการกำหนดภาษีของการปล่อยคาร์บอนจากรถยนต์ที่เข้มข้นขึ้น กล่าวคือในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้า เราคาดว่าจะได้เห็นราคาของรถยนต์ไฟฟ้าที่ลดลง และดันออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นโมเมนตัมของรถยนต์ไฟฟ้าจากทั่วโลกจะไม่สามารถหยุดยั้งได้ กลายเป็นคลื่นลูกใหม่แทนรถยนต์สันดาปในเร็วๆ นี้

 

 

เครดิต www.autospinn.com

 

BT50 ในตำนาน ฝาสูบมีอาการแบบนี้ เป็นอะไรกันแน่?? | แกะกล่อง DIY